หน้าแรก

ถมดิน ชนิดของดินทำไมต้องใช้ถมไม่เหมือนกัน? แล้วแตกต่างกันอย่างไร.

ถมดินปลูกต้นไม้เลี่ยงภาษี

การปล่อยที่ดินให้รกร้างว่างเปล่า (Vacant Land) คือภาระหนัก เพราะอัตราภาษีที่ดินฯ ประเภทนี้สูงและเพิ่มขึ้นทุก 3 ปี แต่ทางออกที่เจ้าของที่ดินนิยมใช้และถูกต้องตามกฎหมายคือ “การเปลี่ยนสภาพที่ดินให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม” ซึ่งเสียภาษีในอัตราส่วนที่ต่ำกว่ามาก (หรืออาจได้รับการยกเว้นในมูลค่าฐานภาษีบางส่วน)

บทความนี้จะเจาะลึกเทคนิคการถมที่ดินและการเลือกปลูกต้นไม้ให้ผ่านเกณฑ์ “ที่ดินเกษตรกรรม” ตามประกาศกระทรวงการคลังและมหาดไทย

ก่อนจะไปถึงวิธี ต้องเข้าใจความแตกต่างของเม็ดเงิน :

  • ที่ดินรกร้างว่างเปล่า : อัตราภาษีเริ่มต้น 0.3% – 3.0% (เพิ่มขึ้น 0.3% ทุก 3 ปีหากยังไม่ได้ทำประโยชน์)
  • ที่ดินเกษตรกรรม : อัตราภาษีเริ่มต้น 0.01% – 0.1% (และบุคคลธรรมดาได้รับยกเว้นภาษีในมูลค่าที่ดิน 50 ล้านบาทแรกในเขต อปท. เดียวกัน)

สรุป : การเปลี่ยนเกษตรกรรมช่วย ลดภาษีได้มากกว่า 10-30 เท่า

เพื่อให้เข้าข่าย “การทำเกษตรกรรม” ตามกฎหมายไม่สามารถปลูกต้นไม้แค่ 1-2 ต้นได้ แต่ต้องปลูกให้ได้ “ความหนาแน่นต่อไร่” ตามบัญชีแนบท้ายประกาศกระทรวงฯ ดังนี้ :

Note : หากปลูกพืชผสมผสาน ให้นับรวมกันตามสัดส่วนพื้นที่การใช้ประโยชน์จริง

นี่คือจุดที่คนส่วนใหญ่พลาด การถมดินเพื่อ “เลี่ยงภาษี” (บริหารภาษี) มักจะต้องการประหยัดงบประมาณที่สุด แต่ดินแต่ละชนิดปลูกต้นไม้ได้ต่างกัน

เป็นดินราคาถูกที่สุด ใช้สำหรับยกระดับพื้นที่ดินให้สูงหนีน้ำท่วม

  • ข้อดี : ราคาถูก, บดอัดแน่น, พื้นที่แข็งแรง
  • ข้อเสีย : สารอาหารต่ำมาก, เนื้อดินแข็ง รากพืชเดินยาก, ระบายน้ำไม่ดี
  • พืชที่ปลูกได้ : ยูคาลิปตัส, กระถิน, สะเดา (พืชทนแล้ง)
  • ถ้าจะปลูกผลไม้ (กล้วย/มะม่วง) : ห้ามปลูกลงดินถมโดยตรงเด็ดขาด ต้นไม้จะแคระแกร็นและตาย

เป็นดินที่มีแร่ธาตุสมบูรณ์ ร่วนซุย

  • ข้อดี : ปลูกต้นไม้ได้ทุกชนิด งามเร็ว
  • ข้อเสีย : ราคาสูงกว่าดินถมทั่วไป 2-3 เท่า

ไม่ต้องใช้ดินดำถมทั้งแปลงเพื่อประหยัดงบ แนะนำวิธีนี้ :

  1. ถมปรับระดับ : ใช้ “ดินถมทั่วไป” ถมให้เต็มพื้นที่เพื่อปรับระดับ
  2. ขุดหลุม : ขุดหลุมกว้าง x ลึก ประมาณ 50 x 50 เซนติเมตร ตามระยะห่างของพืชที่กฎหมายกำหนด
  3. ปรุงดินในหลุม : ซื้อ “หน้าดิน” หรือดินถุงผสมปุ๋ยคอก มาใส่เฉพาะในหลุมที่ขุด
  4. ปลูก : ลงต้นไม้ในหลุมที่ปรุงดินแล้ว

วิธีนี้จะช่วยให้รากพืชมีสารอาหารในช่วงแรก และเมื่อรากแข็งแรงก็จะสามารถชอนไชลงไปในดินชั้นล่างได้เอง

  • พืช : กล้วยน้ำว้า หรือ กล้วยหอม
  • จำนวน : 200 ต้น/ไร่ (ระยะห่างประมาณ 2.5 x 2.5 เมตร)
  • ดิน : ถมดินทั่วไป + ขุดหลุมรองก้นด้วยปุ๋ยคอก
  • ข้อดี : กล้วยโตไว ใบใหญ่คลุมดินทำให้หญ้าไม่ขึ้นรก ถ่ายรูปส่งเขต/เทศบาลแล้วดูเป็นสวนเกษตรชัดเจนที่สุด
  • พืช : ยูคาลิปตัส หรือ กระถินณรงค์
  • จำนวน : 100 ต้น/ไร่
  • ดิน : ดินถมทั่วไป (แทบไม่ต้องปรุงดิน)
  • ข้อดี : ทนแล้ง ทนดินเค็ม ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ตายยาก เหมาะกับเจ้าของที่ดินที่ไม่มีเวลาไปดู
  • พืช : ไม้ยืนต้นมูลค่าสูง (ไม้มะค่า, ไม้แดง, พะยูง) หรือ ผลไม้ (มะม่วง, ขนุน)
  • จำนวน : ตามกฎหมายกำหนด (เช่น มะม่วง 20 ต้น/ไร่)
  • ดิน : ต้องมีการปรับปรุงดินอย่างดี
  • ข้อดี : เพิ่มมูลค่าให้ที่ดิน ดูสวยงาม และไม้เศรษฐกิจสามารถนำไปค้ำประกันเงินกู้ได้ในอนาคต

หากคุณกำลังทำคอนเทนต์หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม นี่คือคำที่คนใช้ค้นหามากที่สุดในกลุ่มนี้ :

  • ถมที่ดินราคาถูก
  • ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2567
  • ปลูกกล้วยลดภาษี
  • ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ทำเกษตร
  • อัตรภาษีที่ดินเกษตรกรรม
  • ถมดินปลูกต้นไม้
  • เกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดิน

บทสรุป : การถมดินเพื่อปลูกต้นไม้เลี่ยงภาษีที่ดินรกร้าง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว กุญแจสำคัญคือ “เลือกชนิดดินให้เหมาะกับงบ” และ “เลือกพืชให้ครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด”

คำแนะนำเพิ่มเติม : ควรเริ่มดำเนินการปลูกก่อนวันที่ 1 มกราคม ของปีภาษีนั้นๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมินสภาพที่ดินเป็น “เกษตรกรรม” ในรอบปีภาษีดังกล่าว

เกร็ดความรู้ถมดิน ชนิดของดิน วิธีคำนวณและราคา

การถมดิน เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด ของการสร้างบ้านหรืออาคาร หากเลือกดินผิดประเภท หรือคำนวณปริมาณพลาด อาจส่งผลให้ “บ้านทรุด” หรือ “งบบานปลาย” ได้ บทความนี้ได้รวบรวมทุกคำถามยอดฮิต และสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อให้คุณคุยกับผู้รับเหมาได้รู้เรื่องและได้งานคุณภาพที่สุด

คำถามยอดนิยมอันดับหนึ่งคือ “ถมดินสร้างบ้านใช้ดินอะไรดี?” เพราะดินแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและราคาต่างกัน การเลือกผิดคือหายนะของโครงสร้างครับ

  • คืออะไร : ดินที่มีเนื้อละเอียด สีออกเหลืองๆ แห้งและแข็ง
  • จุดเด่น : บดอัดได้แน่นมาก รับน้ำหนักได้ดี ไม่ค่อยยุบตัว ราคาไม่แพง
  • เหมาะสำหรับ : ถมดินสร้างบ้าน ถมที่ดินแปลงใหญ่ หรือทำถนน
  • ข้อควรระวัง : ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยขึ้น เพราะสารอาหารน้อย
  • คืออะไร : ผิวดินชั้นบนสุด มีแร่ธาตุและอินทรียวัตถุสูง สีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม
  • จุดเด่น : ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ปลูกต้นไม้งาม
  • เหมาะสำหรับ : ถมโปะหน้าชั้นบนสุดประมาณ 20-50 เซนติเมตร เพื่อทำสวน
  • ข้อควรระวัง : ราคาถมดิน ชนิดนี้สูงที่สุด ห้ามนำมาถมเพื่อรับน้ำหนักโครงสร้างเด็ดขาด เพราะยุบตัวง่าย
  • คืออะไร : ดินที่มีหินเม็ดเล็กๆ ปนอยู่ สีแดงส้ม
  • จุดเด่น : แข็งมาก เมื่อบดอัดแล้วจะแน่นเหมือนพื้นถนน
  • เหมาะสำหรับ : ถมที่จอดรถ ทำถนน หรือโกดังโรงงาน
  • ข้อควรระวัง : ชุดเจาะเข็มเสายากมาก และปลูกต้นไม้ไม่ได้เลย
  • คืออะไร : ทรายขี้เป็ด หรือทรายถม
  • จุดเด่น : ราคาถูก ระบายน้ำดีมาก แทรกตัวเข้าทุกซอกมุมได้ดี
  • เหมาะสำหรับ : ถมในโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่ต้องการความเรียบเนียน หรือถมที่ที่มีน้ำขัง
  • ข้อควรระวัง : ต้องมีกำแพงกันดินที่แข็งแรงมาก ไม่งั้นทรายจะไหลออกหมด

หลายคนโดนโกงเพราะคำนวณไม่เป็น หรือลืมเผื่อการยุบตัว สูตรคำนวณ ถมดิน 1 ไร่ หรือตามขนาดที่ดินมีดังนี้ :

  • วงเล็บแรก : คือ ปริมาณดิน หน่วยที่ได้จะเป็น “ลูกบาศก์เมตร” หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า “คิว” นั่นเองครับ
  • วงเล็บหลังเครื่องหมายเท่ากับ : คือ พื้นที่ ต้องใช้หน่วยเป็น “ตารางเมตร” เท่านั้น
    ถ้าในโฉนดบอกเป็น ตารางวา ให้เอา X 4 ก่อนครับ
  • วงเล็บหลังสุด : คือ ความสูง ความสูงที่ต้องการถมขึ้นมา หน่วยเป็น “เมตร” (เช่น ถมสูง 50 ซม. ก็คือ 0.5 เมตร)
  • 1 ไร่ = 1,600 ตารางเมตร
  • 1 งาน = 400 ตารางเมตร
  • 1 ตารางวา = 4 ตารางเมตร
  • แปลงตารางวาเป็นตารางเมตร : 100 X 4 = 400 ตารางเมตร
  • คำนวณคิว : 400 X 1 = 400 คิว

เมื่อรถดั๊มเทดินลงไป ดินจะฟู แต่เมื่อบดอัดแล้วดินจะยุบลง ดังนั้นต้องสั่งดินเผื่อไว้เสมอ :

  • ต้องสั่งเผื่อประมาณ 20% – 30%
  • จากตัวอย่างด้านบน 400 คิว คุณควรสั่งดินจริงๆ ประมาณ 480 – 520 คิว เพื่อให้ได้ระดับความสูง 1 เมตรจริงๆ หลังบดอัด

ราคาถมดินมักขึ้นอยู่กับ “ค่าขนส่ง” เป็นหลัก

  • รถบรรทุก 10 ล้อ : ขนได้เยอะ (ประมาณ 10-14 คิว/เที่ยว) ราคาต่อคิวอาจถูกกว่า แต่เข้าซอยแคบไม่ได้ และน้ำหนักอาจทำให้ถนนซอยพัง
  • รถบรรทุก 6 ล้อ : ขนได้น้อย (ประมาณ 3-5 คิว/เที่ยว) ราคาต่อคิวแพงกว่าเล็กน้อย แต่มีความคล่องตัวสูง เข้าซอยแคบในเมืองได้ดี

คำแนะนำ : ถ้าที่ดินอยู่ติดถนนใหญ่ให้ใช้ รถบรรทุกดิน 10 ล้อ แต่ถ้าอยู่ในซอยลึกหรือหมู่บ้านจัดสรร ต้องใช้ 6 ล้อเท่านั้น

นี่คือคำถามที่คนใจร้อนอยากรู้ที่สุด

  • ดีที่สุด : ถมทิ้งไว้ข้ามปี หรืออย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อให้ดินเซตตัวและผ่านฝน (ฝนช่วยให้ดินแน่นขึ้นตามธรรมชาติ)
  • ถ้ารีบ : สามารถสร้างได้เลย แต่ต้องใช้เข็มยาวเจาะทะลุชั้นดินถมลงไปถึงชั้นดินดานเดิม และพื้นบ้านควรเป็นระบบ “พื้นวางบนคาน” (Slab on Beam) เพื่อถ่ายน้ำหนักลงเสาเข็ม ไม่ใช่วางบนดินใหม่
  1. ตกลงหน่วยวัดให้ชัด : จะวัดเป็น “คิวรถ” (ปริมาณบนรถ) หรือ “คิวหน้างาน” (วัดจากพื้นที่จริงหลังบดอัด) แนะนำว่าวัดเป็นคิวรถจะตรวจสอบง่ายกว่า แต่ต้องมีคนคอยนับเที่ยวรถ
  2. ทำสัญญาเรื่องเกลี่ยหน้าดิน : ราคานี้รวมรถไถเกลี่ยดินให้เรียบร้อยและบดอัดด้วยหรือไม่
  3. เคลียร์พื้นที่ : หากที่ดินเดิมมีหญ้ารก ต้องจ้างถางป่าก่อนถม หรือให้ผู้รับเหมาจัดการ (อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
  4. ระวังเพื่อนบ้าน : การถมดินมักมีฝุ่นและเสียง ต้องมีการป้องกันและพูดคุยกับข้างบ้านให้ดีก่อนเริ่มงาน

รับเหมาถมที่ดิน ถมดินสร้างบ้าน ถมดินทุกชนิด

บริษัท รับเหมาถมดิน ทุกชนิด

ถมที่ดิน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นนทบุรี มีนบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ

รับเหมาถมที่ดิน บดอัน ปรับหน้าดิน โดยผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 20 ปี ถมดินสร้างบ้าน หรือ ถมที่ดินทำธุระกิจต่างๆ สร้างโกดัง โรงงาน ก่อนที่จะ สร้างบ้านควรจะถมดินตามมาตฐาน ให้สูงกว่าพื้นถนน 50-70 เซ็นติเมตร เพราะป้องกันปัญหามีน้ำท่วมขัง และยังทำให้ตัวบ้านมีขนาดพอเหมาะเพียงพอต่อการก่อสร้างบ้านได้ดี และดินที่นิยมในการนำมาถม คือ ดินถม หรือ ดินเหนียว เพราะหาได้ง่ายในบริเวณกรุงเทพฯ และยังราคาถูก หลังจากการบดอัดแล้วจะทำให้ดินนั้นมีความแแน่น

Scroll to Top