เลือกดินให้ถูก คำนวณราคาถมดินไม่ให้งบบานปลาย
การถมดิน เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด ของการสร้างบ้านหรืออาคาร หากเลือกดินผิดประเภท หรือคำนวณปริมาณพลาด อาจส่งผลให้ “บ้านทรุด” หรือ “งบบานปลาย” ได้ บทความนี้ได้รวบรวมทุกคำถามยอดฮิต และสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อให้คุณคุยกับผู้รับเหมาได้รู้เรื่องและได้งานคุณภาพที่สุด
1. เลือก “ชนิดของดิน” อย่างไรให้เหมาะกับงาน? (Top Search)
คำถามยอดนิยมอันดับหนึ่งคือ “ถมดินสร้างบ้านใช้ดินอะไรดี?” เพราะดินแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและราคาต่างกัน การเลือกผิดคือหายนะของโครงสร้างครับ
ดินดาน (Subsoil) – พระเอกของงานสร้างบ้าน
- คืออะไร : ดินที่มีเนื้อละเอียด สีออกเหลืองๆ แห้งและแข็ง
- จุดเด่น : บดอัดได้แน่นมาก รับน้ำหนักได้ดี ไม่ค่อยยุบตัว ราคาไม่แพง
- เหมาะสำหรับ : ถมดินสร้างบ้าน ถมที่ดินแปลงใหญ่ หรือทำถนน
- ข้อควรระวัง : ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยขึ้น เพราะสารอาหารน้อย
หน้าดิน (Topsoil) – แพงแต่ดีกับต้นไม้
- คืออะไร : ผิวดินชั้นบนสุด มีแร่ธาตุและอินทรียวัตถุสูง สีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม
- จุดเด่น : ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ปลูกต้นไม้งาม
- เหมาะสำหรับ : ถมโปะหน้าชั้นบนสุดประมาณ 20-50 เซนติเมตร เพื่อทำสวน
- ข้อควรระวัง : ราคาถมดิน ชนิดนี้สูงที่สุด ห้ามนำมาถมเพื่อรับน้ำหนักโครงสร้างเด็ดขาด เพราะยุบตัวง่าย
ดินลูกรัง (Latarite Soil) – แกร่งแต่แห้งแล้ง
- คืออะไร : ดินที่มีหินเม็ดเล็กๆ ปนอยู่ สีแดงส้ม
- จุดเด่น : แข็งมาก เมื่อบดอัดแล้วจะแน่นเหมือนพื้นถนน
- เหมาะสำหรับ : ถมที่จอดรถ ทำถนน หรือโกดังโรงงาน
- ข้อควรระวัง : ชุดเจาะเข็มเสายากมาก และปลูกต้นไม้ไม่ได้เลย
ดินทราย (Sand) – ถมที่น้ำขัง
- คืออะไร : ทรายขี้เป็ด หรือทรายถม
- จุดเด่น : ราคาถูก ระบายน้ำดีมาก แทรกตัวเข้าทุกซอกมุมได้ดี
- เหมาะสำหรับ : ถมในโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่ต้องการความเรียบเนียน หรือถมที่ที่มีน้ำขัง
- ข้อควรระวัง : ต้องมีกำแพงกันดินที่แข็งแรงมาก ไม่งั้นทรายจะไหลออกหมด
2. วิธีคำนวณปริมาณดินและราคา
หลายคนโดนโกงเพราะคำนวณไม่เป็น หรือลืมเผื่อการยุบตัว สูตรคำนวณ ถมดิน 1 ไร่ หรือตามขนาดที่ดินมีดังนี้ :
สูตรคำนวณเบื้องต้น
() = () X ()
- วงเล็บแรก : คือ ปริมาณดิน หน่วยที่ได้จะเป็น “ลูกบาศก์เมตร” หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า “คิว” นั่นเองครับ
- วงเล็บหลังเครื่องหมายเท่ากับ : คือ พื้นที่ ต้องใช้หน่วยเป็น “ตารางเมตร” เท่านั้น
ถ้าในโฉนดบอกเป็น ตารางวา ให้เอา X 4 ก่อนครับ - วงเล็บหลังสุด : คือ ความสูง ความสูงที่ต้องการถมขึ้นมา หน่วยเป็น “เมตร” (เช่น ถมสูง 50 ซม. ก็คือ 0.5 เมตร)
หน่วยที่ต้องรู้ :
- 1 ไร่ = 1,600 ตารางเมตร
- 1 งาน = 400 ตารางเมตร
- 1 ตารางวา = 4 ตารางเมตร
ตัวอย่าง : ต้องการถมที่ดิน 100 ตารางวา ให้สูงขึ้น 1 เมตร
- แปลงตารางวาเป็นตารางเมตร : 100 X 4 = 400 ตารางเมตร
- คำนวณคิว : 400 X 1 = 400 คิว
เคล็ดลับระดับเซียน : ต้องบวก “เปอร์เซ็นการยุบตัว”
เมื่อรถดั๊มเทดินลงไป ดินจะฟู แต่เมื่อบดอัดแล้วดินจะยุบลง ดังนั้นต้องสั่งดินเผื่อไว้เสมอ :
- ต้องสั่งเผื่อประมาณ 20% – 30%
- จากตัวอย่างด้านบน 400 คิว คุณควรสั่งดินจริงๆ ประมาณ 480 – 520 คิว เพื่อให้ได้ระดับความสูง 1 เมตรจริงๆ หลังบดอัด
3. รถ 6 ล้อ vs รถ 10 ล้อ เลือกแบบไหนคุ้มกว่า?
ราคาถมดินมักขึ้นอยู่กับ “ค่าขนส่ง” เป็นหลัก
- รถบรรทุก 10 ล้อ : ขนได้เยอะ (ประมาณ 10-14 คิว/เที่ยว) ราคาต่อคิวอาจถูกกว่า แต่เข้าซอยแคบไม่ได้ และน้ำหนักอาจทำให้ถนนซอยพัง
- รถบรรทุก 6 ล้อ : ขนได้น้อย (ประมาณ 3-5 คิว/เที่ยว) ราคาต่อคิวแพงกว่าเล็กน้อย แต่มีความคล่องตัวสูง เข้าซอยแคบในเมืองได้ดี
คำแนะนำ : ถ้าที่ดินอยู่ติดถนนใหญ่ให้ใช้ รถบรรทุกดิน 10 ล้อ แต่ถ้าอยู่ในซอยลึกหรือหมู่บ้านจัดสรร ต้องใช้ 6 ล้อเท่านั้น
4. ควรถมดินทิ้งไว้นานแค่ไหนก่อนสร้างบ้าน
นี่คือคำถามที่คนใจร้อนอยากรู้ที่สุด
- ดีที่สุด : ถมทิ้งไว้ข้ามปี หรืออย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อให้ดินเซตตัวและผ่านฝน (ฝนช่วยให้ดินแน่นขึ้นตามธรรมชาติ)
- ถ้ารีบ : สามารถสร้างได้เลย แต่ต้องใช้เข็มยาวเจาะทะลุชั้นดินถมลงไปถึงชั้นดินดานเดิม และพื้นบ้านควรเป็นระบบ “พื้นวางบนคาน” (Slab on Beam) เพื่อถ่ายน้ำหนักลงเสาเข็ม ไม่ใช่วางบนดินใหม่
5. เช็คลิสต์ก่อนจ้างผู้รับเหมาถมดิน (กันโดนโกง)
- ตกลงหน่วยวัดให้ชัด : จะวัดเป็น “คิวรถ” (ปริมาณบนรถ) หรือ “คิวหน้างาน” (วัดจากพื้นที่จริงหลังบดอัด) แนะนำว่าวัดเป็นคิวรถจะตรวจสอบง่ายกว่า แต่ต้องมีคนคอยนับเที่ยวรถ
- ทำสัญญาเรื่องเกลี่ยหน้าดิน : ราคานี้รวมรถไถเกลี่ยดินให้เรียบร้อยและบดอัดด้วยหรือไม่
- เคลียร์พื้นที่ : หากที่ดินเดิมมีหญ้ารก ต้องจ้างถางป่าก่อนถม หรือให้ผู้รับเหมาจัดการ (อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
- ระวังเพื่อนบ้าน : การถมดินมักมีฝุ่นและเสียง ต้องมีการป้องกันและพูดคุยกับข้างบ้านให้ดีก่อนเริ่มงาน
